หน้าแรก >> แพ็คเกจล่องเรือ >> เรือสะบายสะบาย >>ล่องเรือไหว้พระเสริมศิริมงคล

ล่องเรือไหว้พระเสริมศิริมงคล 

     
 
 
 
 
ล่องเรือไหว้พระเสริมศิริมงคล

ระยะเวลา 5-9 ชั่วโมง รวมแวะทานอาหาร
การล่องเรือทานอาหารพร้อมกับไหว้พระไปด้วยเหมาะสำหรับการจัดเที่ยวในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ในกลุ่มของครอบครัว หรือ เพื่อนฝูง เป็นการเที่ยวแบบใช้เวลาด้วยกันเกือบทั้งวัน ที่น่าสนุก คือ การได้สังสรรค์กันบนเรือ ทั้งขาไปขากลับ ได้เห็นการใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำ และยังเสริมศิริมงคลแก่ชีวิตกับการไหว้พระวัดต่างๆ

เรือสบาย (ขนาดไม่เกิน 35 ท่าน)
 

 

เรือสะนุก (ไขนาดไม่เกิน 125 ท่าน)
 

 

โปรแกรมที่1 ไหว้พระ 9 วัด (กรุงเทพ-นนทบุรี)
วัดยานนาวา / จีจินเกาะ / วัดกัลยาณมิตร / วัดอรุณ / วัดระฆัง / วัดโพธิ์ / วัดคฤหบดี / วัดทองธรรมชาติ / วัดเฉลิมพระเกียรติ
(ลูกค้าสามารถเปลี่ยนแปลงโปรแกรมได้ตามความสะดวก)
เวลาล่องเรือ 08.30 - 17.00 น. รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ เริ่มต้นท่าเรือวัดยานนาวา
ราคาเหมาลำ เรือสบาย (ขนาด 35 ที่นั่ง)    ราคาปกติ    32,000 บาท   /  ราคาลดพิเศษ สอบถามโทร 02-148-4699 
ราคาเหมาลำ เรือสะนุก (ขนาด 125 ที่นั่ง)  ราคาปกติ    79,000 บาท   /  ราคาลดพิเศษ สอบถามโทร 02-148-4699 
ค่าอาหารกลางวัน 370 บาท รวมเครื่องดื่มซอฟดริ๊งค์ทั้งวันบนเรือ

 

ปรแกรมที่2 ไหว้พระ 5 วัด (กรุงเทพ-เกาะเกร็ด)
วัดยานนาวา / วัดอรุณ / วัดไผ่ล้อม / วัดปรมัยยิกาวาส / วัดเฉลิมพระเกียรติ 
(ลูกค้าสามารถเปลี่ยนแปลงโปรแกรมได้ตามความสะดวก)
เวลาล่องเรือ  09.00 - 17.30 น. รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ เริ่มต้นท่าเรือวัดยานนาวา
ราคาเหมาลำ เรือสบาย (ขนาด 35 ที่นั่ง)   ราคาปกติ   32,000 บาท    /  ราคาลดพิเศษ 
สอบถามโทร 02-148-4699 
ราคาเหมาลำ  เรือสะนุก (ขนาด 125 ที่นั่ง)  ราคาปกติ  79,000 บาท   /  ราคาลดพิเศษ  สอบถามโทร 02-148-4699 
ค่าอาหารกลางวัน 370 บาท รวมเครื่องดื่มซอฟดริ๊งค์ทั้งวันบนเรือ

 

โปรแกรมที่3 ไหว้พระ 5 วัด (กรุงเทพ-นนทบุรี)
วัดยานนาวา / จีจินเกาะ / วัดกัลยาณมิตร / วัดอรุณ / วัดเฉลิมพระเกียรติ 
(ลูกค้าสามารถเปลี่ยนแปลงโปรแกรมได้ตามความสะดวก)
เวลาล่องเรือ 09.30 - 17.00 น. รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ เริ่มต้นท่าเรือวัดยานนาวา
ราคาเหมาลำ เรือสบาย (ขนาด 35 ที่นั่ง)    ราคาปกติ    30,000 บาท   /   ราคาลดพิเศษ สอบถามโทร 02-148-4699 
ราคาเหมาลำ  เรือสะนุก (ขนาด 125 ที่นั่ง)  ราคาปกติ   75,000 บาท    /  ราคาลดพิเศษ สอบถามโทร 02-148-4699 
ค่าอาหารกลางวัน 370 บาท รวมเครื่องดื่มซอฟดริ๊งค์ทั้งวันบนเรือ

 โปรแกรมที่ 4 ล่องเเรือไปวัดโบถส์ (เลือกได้ขาเดียว ไปหรือกลับเท่านั้น)

เรือสะบาย (ไม่เกิน 30 ท่าน)  ค่าเรือ 39,999 บาท

เรือสะบาย ใช้เวลาเดินทาง  5 ชั่วโมง

รือสะนุก (35-120 ท่าน) ค่าเรือ  85,000 บาท

เรือสะนุก ใชัเวลาเดินทาง  4 ชั่วโมง 

 โปรแกรมที่5 ล่องเรือไปศูนย์ศิลปชีพบางไทร(เลือกได้ขาเดียวไปหรือกลับ

 เรือสะบาย (ไม่เกิน 30 ท่าน) ค่าเรือ 45,000 บาท

เรือสะบายใช้เวลาเดินทาง 6.2 ชั่วโมง

เรือสะนุก (35-120 ท่าน) ค่าเรือ 105,000 บาท 

เรือสะนุกใช้เวลาเดินทาง  5 ชั่วโมง

 

โปรแกรมที่ 6 ล่องเรือไปบางปะอิน(เลือกขาไปหรือกลับเท่านั้น)

เรือสะบาย (ไม่เกิน 30 ท่าน) ค่าเรือ  48,000 บาท

เรือสะบายใช้เวลาเดินทาง  7.1 ชั่วโมง

เรือสะนุก (35-120 ท่าน) ค่าเรือ  115,000 บาท

เรือสะนุกใช้เวลาเดินทาง  5.4 ชั่วโมง

 

โปรแกรมที่ 7 ล่องเรือ อยุธยา ไปอยุธยา (เที่ยวเดียว ไป หรือกลับ)

ราคาเหมาลำ

รือสะบาย 56,000  บาท รับได้ถึง 30 ท่า

กรุงเทพ - อยุธยา ใช้เวลา 8 ชั่วโมง

อยุธยา - กรุงเทพ ใช้เวลา 7 ชั่วโมง

รือสะนุก 130,000 บาท รับได้ถึง 100 ท่า

กรุงเทพ - อยุธยา ใช้เวลา 6.30 ชั่วโมง

อยุธยา - กรุงเทพ ใช้เวลา  6 ชั่วโมง

 

ข้อมูลแนะนำวัด 9 แห่ง
วัดยานนาวา พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ "วัดคอกควาย"  มีชาวทวายมาลงหลักปักฐานอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และชาวทวายจะนำกระบือที่เลี้ยงไว้มาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน หมู่บ้านบริเวณนั้นจึงได้ชื่อเรียกกันต่อมาว่า "บ้านคอกควาย"ด้านหลังบานประตูในพระอุโบสถ (ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1) มีภาพจิตรกรรมสำคัญที่รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้วาดขึ้น คือรูปกระทงใหญ่ ตามแบบที่ทำในพระราชพิธีลอยพระประทีป และโถยาคูตามแบบอย่างที่ทำเลี้ยงพระในพระราชพิธีสารทในรัชสมัยของพระองค์
   
สมาคมเผยแผ่คุณธรรม "เต็กก่า" จีจินเกาะ เป็นหนึ่งเดียวในองค์กรสมาชิกของสมาคมสหมิตรการกุศลเต็กก่าแห่งประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2495 ที่แห่งนี้จัดว่าเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธทั้ง 3 ลัทธิ คือ มหายาน เต๋า และขงจื๊อ ทั้ง 3 ชั้นประดิษฐานเทวรูปองค์เทพต่างๆ ชั้นบนสุดเป็นเทวรูปของเง็กเซียนฮ่องเต้ กษัตรย์แห่งสวรรค์ ซึ่งมีความเชื่อว่าเง็กเซียนฮ่องเต้องค์ต่อไปคือเทพเจ้ากวนอู มองจากภายนอกด้านซ้ายมือของเทววิหารจะเห็นบ้านแห่งแรกของต้นตระกูลหวั่งหลีในเมืองไทย ที่ได้รับการบูรณะปรับปรุงทาสีขาว ขอบหน้าต่างสีเขียวให้สวยงาม
   
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ เขตธนบุรี วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างขึ้นเมื่อสมัยราชกาลที่ 3 เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2368 และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต
   
วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเรียกว่า "วัดมะกอก" ตามชื่อตำบลบางมะกอกซึ่งเป็นตำบลที่ตั้งวัด ภายหลังเปลี่ยนเป็น "วัดมะกอกนอก" เพราะมีวัดสร้างขึ้นใหม่ในตำบลเดียวกันแต่ อยู่ลึกเข้าไปในคลองบางกอกใหญ่ชื่อ "วัดมะกอกใน" ต่อมาใน พ.ศ. ๒๓๑๐ เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรีจึงเสด็จกรีฑาทัพล่องลงมาทางชลมารคถึงหน้าวัดมะกอกนอกนี้เมื่อเวลารุ่งอรุณพอดี จึงทรงเปลี่ยนชื่อวัดมะกอกนอกเป็น "วัดแจ้ง" เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งนิมิตที่ได้เสด็จมาถึงวัด นี้เมื่อเวลาอรุณรุ่ง
   
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร (วัดระฆัง) ตั้งอยู่ทางฝั่งธนบุรี ตรงข้ามกับท่าช้างวังหลวง เดิมชื่อวัดบางหว้าใหญ่ เป็นวัดโบราณมีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง และโปรดเกล้าฯ ให้สังคยาพระไตรปิฏกที่นี่ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๑ มีการขุดพบระฆังโบราณในเขตวัด ประชาชนจึงเรียกว่า วัดระฆังตั้งแต่นั้นมา แต่ตัวระฆังซึ่งมีเสียงดี รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สิ่งสำคัญในวัดได้แก่ ตำหนักทอง ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีและสมเด็จพระสงฆราช
   
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร และเป็นวัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ 1 ทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์ พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
   
วัดคฤหบดี เป็นวัดที่พระยาราชมนตรีบริรักษ์ (ภู่) ต้นสกุล "ภมรมนตรี" เป็นผู้สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ได้โปรดพระราชทานนามวัด และพระราชทานพระแซกคำไว้เป็นพระประธานในพระอุโบสถ แต่เดิมนั้นพระยาราชมนตรีบริรักษ์ (ภู่) มีบ้านอยู่ริมฝั่งตะวันตกแม่น้ำเจ้าพระยา เหนือบ้านปูน ตำบลบางพลัด  ได้ถวายตัวเข้ารับราชการตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ยังทรงกรมเป็นพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์  ในสมัยรัชกาลที่ ๒ (บ้านเดิมคือ บริเวณวัดคฤหบดีทุกวันนี้)
   
วัดทองธรรมชาติ เป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง เดิมเรียกกันว่า วัดทองบนคู่กับวัดทองล่าง สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเนื่องจากเสนาสนะเป็นสถาปัตยกรรม สมัยอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ ๑ พระองค์เจ้าหญิงกุ ซึ่งเป็นขนิษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือ เรียกกันว่าเจ้าครอกวัดโพธิ์กับพระสวามี คือ หม่อมมุก ทรงบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างพระอุโบสถใหม่แต่การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จเพราะกรมหมื่นนรินทรพิทักษ์สิ้นพระชนม์ลง ครั้นรัชกาลที่ ๓ ทรงทราบว่าวัดทองธรรมชาติบูรณะยังไม่เสร็จ จึงโปรดให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร เป็นแม่กอง ก่อสร้างจนเสร็จ และทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง
   
วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ซอยเฉลิมพระเกียรติ 15 เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2390 เพื่อถวายพระอัยกา พระอัยกีและสมเด็จพระราชชนนี มาสร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 4 ภายในเขตพระอารามมีความสงบ สะอาด ร่มรื่น ศิลปะสถาปัตยกรรมอนุรักษ์รูปแบบเดิมไว้ แม้สิ่งก่อสร้างต่างๆ ก็มีความกลมกลืนกับสถาปัตย์เดิม  วัดนี้ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นประจำปีพ.ศ. 2536 จากสมาคมสถาปนิกสยาม


    
 
     
     

 

การเดินทางไปท่าเรือริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา

การเดินทางไปล่องเรือ        สถานที่ต่างๆ เรือล่องผ่าน         การสำรองที่นั่งบนเรือ 

Copyright © 2012 All Rights Reserved.